วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Recorded Diary 14

 

…………………… WELCOME ……………………

💬ความรู้ที่ได้รับในวันนี้

วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาเขียนวัตถุประสงค์ของกิจกรรมต่าง ๆ เขียนตามความรู้เดิมที่เรามี อาจารย์กำหนดกิจกรรมต่าง ๆ มา และให้นักศึกษาคิดว่ากิจกรรมนี้ นำไปใช้เขียนแผนอย่างไรได้บ้าง หรือวิธีการสอนแบบจับคู่ สามารถนำไปทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง โดยกิจกรรม หลัก 6 กิจกรรม ประกอบไปด้วย

กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรมของเด็กปฐมวัย มีดังนี้
1.กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างอิสระตามจังหวะ ซึ่งจังหวะและดนตรีที่ใช้ประกอบได้แก่ เสียงตบมือ เสียงเพลง เสียงเคาะไม้ เคาะเหล็ก รำมะนา กลอง ฯลฯ
2.กิจกรรมสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับงานศิลปศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ การวาดภาพระบายสี การปั้น การพิมพ์ภาพ การพับ ตัด ฉีก ปะ และประดิษฐุ์เศษวัสดุ ที่มุ่งพัฒนากระบวนการคิดสร้างสรรค์ การรับรู้เกี่ยวกับความงามและส่งเสริมกระตุ้นให้เด็กแต่ละคนได้แสดงออกตามความรู้สึกและความสามารถของตนเอง
3.กิจกรรมเสรี เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เล่นกับสื่อและเครื่องเล่นอย่างอิสระในมุมการเล่นกิจกรรมการเล่นแต่ละประเภทสนองตอบความต้องการตามธรรมชาติของเด็ก
4.กิจกรรมเสริมประสบการณ์ เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้ฟัง พูด สังเกต คิด และปฏิบัติการทดลอง ให้เกิดความคิดรวบยอดและเพิ่มพูนทักษะต่าง ๆ ด้วยวิธีการหลากหลาย เช่น การสนทนา ซักถามหรืออภิปราย สังเกต ทัศนศึกษา และปฏิบัติการทดลองตามกระบวนการเรียนรู้
5.กิจกรรมกลางแจ้ง เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้ออกนอกห้องเรียนไปสู่สนามเด็กเล่นทั้งที่บริเวณกลางแจ้งและในร่มเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกอย่างอิสระ โดยยึดเอาความสนใจ และความสามารถของเด็กแต่ละคนเป็นหลัก
6.กิจกรรมเกมการศึกษา เป็นกิจกรรมการเล่นที่มีกระบวนการในการเล่นตามชนิดของเกมประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน
💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

👉การประเมิน

ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังและหาคำตอบ

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจฟังและหาคำตอบ

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ดี

…………………… THANK YOU ……………………

 

 

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Recorded Diary 13

 

…………………… WELCOME ……………………

💬ความรู้ที่ได้รับในวันนี้

วันนี้อาจารย์ตรวจแผนการสอนของแต่ละกลุ่ม ว่ามีข้อผิดพลาดและควรปรับปรุงตรงไหน  นำไปแก้ไขให้ดีขึ้น

💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

👉การประเมิน

ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังและนำงานที่ได้รับมอบหมายไปแก้ไขให้ถูกต้อง

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจฟังและนำงานที่ได้รับมอบหมายไปแก้ไขให้ถูกต้อง

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ดี

…………………… THANK YOU ……………………

 

 

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Recorded Diary 12

 

…………………… WELCOME ……………………

💬ความรู้ที่ได้รับในวันนี้

วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษานำโบชัวร์มาเพื่อทำหนังสือคำศัพท์ 

โดยมีอุปกรณ์ ดังนี่้

1.กระดาษ A4 
2.โบชัวร์
3.กรรไกร
4.กาว
5.ปากกาเคมี

ขั้นตอนการทำ

1.สังเกตดูว่าในโบชัวร์ที่นำมานั้น สามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่อะไรได้ เช่น หากมีรูปของกินเยอะ อาจจะให้เป็นหมวดของกิน ถ้ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ ก็ให้เป็นหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า

2.ตัดรูปภาพตามหมวดที่เรากำหนดขึ้น เช่น หมวดของกิน ก็ตัดแต่รูปของกิน

3.เมื่อเราได้รูปภาพแล้ว ก็เริ่มแปะลงในกระดาษ โดยในการแปะนั้นก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ความพอดี และความสวยงาม โดยเว้นขอบกระดาษ รูปภาพต้องอยู่บนคำศัพท์ 

4.หากเป็นหมวดของกิน ให้เขียนว่า ฉันชอบกิน...โดยมีรูปภาพพร้อมคำศัพท์ 

5.คำศัพท์ที่เขียนนั้น ควรเป็นปากกาที่สีแตกต่าง เช่น ฉันชอบกิน ซาลาเปา (ใช้ปากกาเน้นสีเพื่อให้เด็กรู้คำศัพท์)

6.ในหน้าสุดท้ายควรมีข้อควรระวังในแต่ละหมวด

7.จากนั้นทำการรวมเล่ม

💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

👉การประเมิน

ประเมินตนเอง : ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ดี

…………………… THANK YOU ……………………

 

 

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Recorded Diary 11

 

…………………… WELCOME ……………………

💬ความรู้ที่ได้รับในวันนี้

วันนี้อาจารย์ให้นำอุปกรณ์มาประดิษฐ์ตามหน่วยการเรียนรู้ โดยสิ่งที่ประดิษฐ์นั้นต้องมีความเป็น STEM                                

อุปกรณ์ทำผีเสื้อ

1.กระดาษ   
2.ใบไม้     
3.ถุงพลาสติก     
4.หลอด     
5.กรรไกร     
6.สี     
7.กาว

ในส่วนของกลุ่มดิฉันนั้นได้ไปทำกิจกรรมของกลุ่ม รักเมืองไทย เป็นการจัดกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญนั่นคือ การทำกระทงจากอาหารปลา 

อุปกรณ์ทำกระทง

1.อาหารปลา   
2.ฟองน้ำชุบน้ำ   
3.สี     
4.กระดาษ     
5.ธูปเทียน

ขั้นตอนการทำ

1.ร่างแผนการทำขึ้นมาก่อนว่าเราต้องการทำกระทงรูปแบบใดเพื่อเป็นแนวทาง ต้องใช้อาหารปลาสีอะไร ใช้เท่าไหร่

2.จากนั้นทำตามแบบโดยการนำอาหารแตะที่ฟองน้ำชุบน้ำแล้วนำมาติดกัน

3.เมื่อเสร็จแล้วนำธูปเทียนมาปักให้เรียบร้อย

***จากนั้นต้องมาทดลองเพื่อหาข้อสรุป ว่ากระทงที่ทำจากอาหารปลานั้นจะสามารถลอยได้หรือไม่

***การที่กระทงสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำได้  เนื่องจาก วัสดุหรือสิ่งที่เรานำมาใช้ในการทำกระทงนั้นมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ และน้ำก็มีแรงดันวัตถุให้ลอยขึ้นมาซึ่งก็คือ แรงลอยตัวหรือแรงพยุง นั่นเอง โดยแรงนี้จะขึ้นอยู่กับปริมาณของน้ำที่ถูกวัตถุนั้นแทนที่ ยิ่งถ้ากระทงมีปริมาตรหรือพื้นที่ผิวสัมผัสกับน้ำมากเท่าไหร่ ความหนาแน่นของกระทงจะยิ่งลดลง แรงลอยตัวหรือแรงพยุงก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น กระทงจึงสามารถลอยตัวอยู่บนผิวน้ำได้ 

 สำหรับSTEM ได้แก่

S เรื่องแรงลอยตัวหรือแรงพยุง

T อุปกรณ์ที่นำมาใช้ได้แก่ อาหารปลา ธูป เทียน ฟองน้ำชุบน้ำ

E การออกแบบรูปทรงของกระทง

M จำนวนอาหารปลาที่ใช้ในการทำกระทรง รูปร่าง รูปทรง

💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

👉การประเมิน

ประเมินตนเอง : ตั้งใจประดิษฐ์กระทง

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ดี

…………………… THANK YOU ……………………

 

 

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Recorded Diary 10

 

…………………… WELCOME ……………………

💬ความรู้ที่ได้รับในวันนี้

วันนี้อาจารย์ให้นำเสนอVDOการสอนและให้เพื่อนๆช่วยกันวิเคราะห์ โดยการสอนนั้นจะต้องประกอบไปด้วยขั้นต่าง ๆ ดังนี้                                                                             การจัดการเรียนการสอนมี  4  ขั้นตอน คือ
-ขั้นนำ (
introduction)
-ขั้นสอน (
body)
-ขั้นสรุป (conclusion)
-ขั้นประเมินผล (assessment)                                                                          มาใช้เป็นขั้นตอนในเหตุการณ์การนำเสนอการเรียนการสอนของกานเย และวิเคราะห์ลักษณะของเหตุการณ์การเรียนการสอน ตามลักษณะบทบาทของผู้เรียนและผู้สอน ซึ่งแบ่งได้ 3 ลักษณะ คือ
แบบที่ 1 เป็นแบบที่ผู้เรียนเป็นฝ่ายริเริ่มหรือเป็นผู้มีบทบาทนำ โดยผู้เรียนเป็นผู้สืบสอบค้นพบความรู้ด้วยตนเอง (exploratory) หรือแบบที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ (student-center)
แบบที่ 2 เป็นแบบที่ผู้สอนเป็นฝ่ายริเริ่มหรือเป็นผู้มีบทบาทนำในการเสนอการเรียนการสอนโดยใช้การบอก อธิบายให้แก่ผู้เรียน (expository) หรือแบบที่ครูเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ (teacher-center)
แบบที่ 3 เป็นแบบที่ผู้สอนและผู้เรียนมีบทบาทร่วมกันในเหตุการณ์การเรียนการสอน                                                                                                                 ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนนอกจากจะคำนึงถึงขั้นตอนในการนำเสนอกิจกรรมการเรียนการสอนว่ามีลำดับอย่างไรแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงลักษณะของบทบาทผู้สอนและผู้เรียนในขั้นตอน
การเรียนการสอนด้วยว่าเป็นอย่างไร ดังแสดงแต่ละขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนในการนำเสนอการเรียนการสอนแต่ละขั้นที่นำเสนอ มีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้
1. ขั้นนำ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมความพร้อมของผู้เรียน ส่งเสริมความสนใจและกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ระลึกถึงความรู้เดิมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้เรื่องใหม่ ซึ่งเก็บไว้ในความจำระยะยาวนำกลับมาสู่ความจำทำงานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้เรื่องใหม่ เหตุการณ์การเรียนการสอนในขั้นนี้ประกอบด้วย
1) การสร้างความสนใจ ทำได้โดยการตั้งคำถามที่ดึงความอยากรู้อยากเห็นของผู้เรียนในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจหรือเรื่องที่เป็นประสบการณ์ใกล้ตัว ผู้สอนอาจใช้การสาธิต การนำเสนอภาพเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะเรียนเป็นการดึงความสนใจของผู้เรียน
2) การบอกจุดประสงค์แก่ผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนรับรู้ว่าพฤติกรรมหรือการกระทำอย่างใดที่แสดงผลการเรียนรู้ของตนหรือเป็นสิ่งที่ผู้สอนคาดหวัง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถตั้งจุดมุ่งหมายอย่างชัดเจนในการเรียนรู้ในครั้งนั้น ๆ
3) การกระตุ้นให้ผู้เรียนระลึกถึงการเรียนรู้ที่มีมาก่อน เพื่อให้ผู้เรียนเห็นความสัมพันธ์ของการเรียนรู้สิ่งใหม่กับสิ่งที่ผู้เรียนรู้มาก่อน เพื่อให้การเรียนรู้สิ่งใหม่ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำได้โดยการพูดคุย สนทนา การใช้คำถามกระตุ้นให้เกิดการทบทวนประสบการณ์เดิมของผู้เรียน

2. ขั้นสอน มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนได้ดึงเอาความรู้เดิมที่เกี่ยวกับการเรียนรู้สิ่งใหม่นำออกมาใช้สร้างความรู้ ความเข้าใจกับสารสนเทศใหม่ที่ได้รับ เหตุการณ์การเรียนการสอนในขั้นนี้ประกอบด้วย
1) การนำเสนอความรู้และสื่อการเรียนรู้ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีเช่น การสาธิต การนำเสนอตัวอย่าง การบอกเล่าโดยตรง การให้ผู้เรียนเป็นผู้ค้นพบ ในการนำเสนอความรู้อาจใช้วิธีอุปนัยหรือวิธีนิรนัย ถ้าเป็นการเรียนรู้ความคิดรวบยอดที่เป็นรูปธรรมควรใช้วิธีอุปนัย โดยให้นักเรียนได้เห็นตัวอย่างหลากหลายแล้วสรุปความหมายของสิ่งนั้นด้วยตนเอง แต่ถ้าเป็นเรื่องนามธรรมควรใช้วิธีนิรนัย และอาจนำเสนอด้วยภาพหรือแผนภูมิ2) การนำเสนอและชี้แนะแนวทางการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ถ้าเป็นเรื่องใหม่ที่ผู้เรียนไม่เคยรู้มาก่อนก็จำเป็นต้องบอกโดยตรง ถ้าเป็นเรื่องที่ผู้เรียนสามารถค้นพบได้ด้วยหลักเหตุผล ผู้สอนก็อาจนำเสนอความรู้โดยวิธีให้ผู้เรียนค้นพบความรู้ นอกจากนี้ผู้สอนควรคำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียนผู้เรียนบางคนต้องการการชี้แนะจากผู้สอนมากและบางคนก็ไม่ต้องการการชี้แนะ ดังนั้นผู้สอนจึงควรใช้วิจารณญาณในการดำเนินการ
3) การให้ผู้เรียนปฏิบัติและฝึกฝนจากแบบฝึกหัดหรือตัวอย่างต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้
4) การให้ข้อมูลป้อนกลับแก่ผู้เรียน ข้อมูลป้อนกลับที่ให้กับผู้เรียนมีจุดมุ่งหมายแบ่งได้ 2 ประการ คือ
ประการแรกมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ผู้เรียนให้เกิดความมั่นใจในการเรียนรู้และจุดมุ่งหมายประการสุดท้ายเพื่อให้สารสนเทศเกี่ยวกับผลการปฏิบัติของผู้เรียนว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร ช่วยให้ผู้เรียนทราบความก้าวหน้าของการปฏิบัติว่าเป็นอย่างไร มีความเหมาะสมหรือไม่ ผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร และชี้ให้เห็นแนวทางที่จะปรับปรุงแก้ไข

3. ขั้นสรุป จุดมุ่งหมายในขั้นนี้เพื่อให้ผู้เรียนได้สรุป และทบทวนความรู้ที่ได้รับว่าเพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่อย่างไร จะนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างไร เหตุการณ์การเรียนการสอนในขั้นนี้ประกอบด้วย
1) การรวบรวมและสังเคราะห์สิ่งที่เรียนรู้ใหม่ เทคนิควิธีที่จะช่วยในการสรุปความรู้ที่นิยมใช้กัน ได้แก่ การใช้ผังกราฟิก (graphic organizer) คือ แบบของการสื่อสารเพื่อใช้นำเสนอข้อมูลหรือความรู้ที่ได้จากการรวบรวมอย่างเป็นระบบ ให้มีความเข้าใจง่าย กะทัดรัด ชัดเจน ผังกราฟิกได้มาจากการนำข้อมูลดิบในเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาทำการจัดกระทำข้อมูลโดยอาศัยทักษะการคิด เช่น การสังเกตเปรียบเทียบ  การแยกแยะ การจัดประเภท การเรียงลำดับ การใช้ตัวเลข การวิเคราะห์ การสร้างแบบแผน จากนั้นจึงมีการเลือกผังกราฟิกเพื่อนำเสนอข้อมูลที่จัดกระทำแล้วตามเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ผู้นำเสนอต้องการ (พิมพันธ์ เดชะคุปต์, 2544) ผังกราฟิกที่นิยมใช้มีหลายรูปแบบ เช่น
(1) แผนผังใยแมงมุม (web) เหมาะสำาหรับการคิดแบบโยงความสัมพันธ์ เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของความคิดที่เกี่ยวข้องซึ่งแยกย่อยออกไปได้มากมาย ก่อนที่จะนำมาจัดกลุ่มหรือจัดประเภทของความคิด ใช้สำหรับการนำเสนอความคิดที่เกิดจากการระดมสมอง
(2) แผนผังความคิด (mind map) เหมาะสำหรับการสรุปความคิดรวบยอดที่สัมพันธ์เชื่อมโยงกัน เป็นโครงสร้างทางความคิดที่ประกอบด้วยความคิดหลักเป็นศูนย์กลางซึ่งประกอบด้วยความคิดรอง และความคิดย่อยที่แตกแขนงจากความคิดรองออกไป ซึ่งแสดงให้เห็นความสัมพันธ์กันเป็นเครือข่าย เช่น แผนผังของอาหารหลัก 5 หมู่ ซึ่งแต่ละหมู่ยังประกอบด้วยอาหารชนิดต่าง ๆ อีกหลายชนิด
(3) แผนผังแสดงการคิดแบบวงจร (circle) เหมาะสำหรับการนำเสนอข้อมูลที่เป็นกระบวนการต่อเนื่องเป็นวงจร เช่น วงจรการเกิดฝน วงจรชีวิตของยุง เป็นต้นยังมีรูปแบบของผังกราฟิกอีกหลายรูปแบบที่ผู้สนใจสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะของข้อมูลและจุดประสงค์ในการนำเสนอ
(4) การส่งเสริมให้นักเรียนจดจำความรู้และถ่ายโอนความรู้ โดยให้นักเรียนนำความรู้ไปใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่แตกต่างไปจากแบบฝึกหัด

4. ขั้นประเมินผล จุดมุ่งหมายในขั้นนี้เพื่อให้ผู้สอนรู้ว่าผู้เรียนเกิดผลการเรียนรู้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ และเป็นข้อมูลในการจัดการเรียนการสอนเพื่อซ่อมเสริมหรือดำเนินการปรังปรุงแก้ไข

💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

👉การประเมิน

ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังและดูวีดีโอ

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจฟังและดูวีดีโอ

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ดี

…………………… THANK YOU ……………………

 

 

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Recorded Diary 9

…………………… WELCOME ……………………

💬ความรู้ที่ได้รับในวันนี้

วันนี้อาจารย์มีกิจกรรมให้นักศึกษาได้ทำการทดลอง STEM  คือ การทำสไลเดอร์ โดยต้องมีการไหลของวัตถุที่ช้าที่สุด

คำว่า “สะเต็ม” หรือ “STEM” เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษของศาสตร์ 4 สาขาวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology)  วิศวกรรมศาสตร์(Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics)  หมายถึงองค์ความรู้ วิชาการของศาสตร์ทั้งสี่ที่มีความเชื่อมโยงกันในโลกของความเป็นจริงที่ต้องอาศัยองค์ความรู้ต่างๆ มาบูรณาการเข้าด้วยกันในการดำเนินชีวิตและการทำงาน คำว่า STEM ถูกใช้ครั้งแรกโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (the National Science Foundation: NSF) ซึ่งใช้คำนี้เพื่ออ้างถึงโครงการหรือโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ อย่างไรก็ตามสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้ให้นิยามที่ชัดเจนของคำว่า STEM มีผลให้มีการใช้และให้ความหมายของคำนี้แตกต่างกันไป (Hanover Research, 2011, p.5) เช่น มีการใช้คำว่า STEM  ในการอ้างอิงถึงกลุ่มอาชีพที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ 

สะเต็มศึกษา (STEM Education) คือ แนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง 4 สหวิทยาการ กับชีวิตจริงและการทำงาน  การจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ไม่เน้นเพียงการท่องจำทฤษฎีหรือกฏทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจทฤษฎีหรือกฏเหล่านั้นผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริงควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิด  ตั้งคำถาม  แก้ปัญหาและการหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อค้นพบใหม่ๆ พร้อมทั้งสามารถนำข้อค้นพบนั้นไปใช้หรือบูรณาการกับชีวิตประจำวันได้

STEM ย่อมาจาก Science, Technology, Engineering and Mathematics เป็นแนวทางการเรียนการสอนที่มีลักษณะของการบูรณาการการเรียนการสอนทั้งสี่สาขาเข้าด้วยกัน คือ วิทยาศาสตร์ (Science), เทคโนโลยี (Technology), วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) เพื่อให้ผู้เรียนนำความรู้ทุกแขนงมาใช้ในการแก้ปัญหา และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในชีวิตประจำวัน โดยอาศัยการจัดการเรียนรู้ด้วยครูหลายสาขาร่วมมือกัน
- Science เป็นวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ ในธรรมชาติ โดยอาศัยกระบวนการสืบเสาะทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Inquiry) 
-Technology เป็นวิชาที่ว่าด้วยกระบวนการทำงานที่มีการประยุกต์ศาสตร์สาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการแก้ปัญหา ปรับปรุงแก้ไขหรือพัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการ หรือความจำเป็นของมนุษย์
-Engineering เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อมาอำนวยความสะดวกของมนุษย์ โดยอาศัยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และกระบวนการทางเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้สร้างสรรค์ชิ้นงานนั้นๆ
-Mathematics เป็นวิชาที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับการคำนวณ หรือ วิชาที่เกี่ยวกับการคำนวณ เป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาและต่อยอดทางวิศวกรรมศาสตร์

💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

👉การประเมิน

ประเมินตนเอง : ได้ฝึกการสังเกต

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจสังเกตในการทดลอง

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ดี

…………………… THANK YOU ……………………

 

 

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Recorded Diary 8

 

…………………… WELCOME ……………………

💬ความรู้ที่ได้รับในวันนี้

วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาอัดคลิปวีดีโอการสอนของแต่ละคน เพื่อเป็นการฝึกทักษะการสอน


💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

👉การประเมิน

ประเมินตนเอง : ได้ฝึกทักษะการสอน

ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ให้คำแนะนำและคำปรึกษาได้ดี

…………………… THANK YOU ……………………

Recorded Diary 14

  ……………………  WELCOME  …………………… 💬 ความรู้ที่ได้รับในวันนี้ วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาเขียนวัตถุประสงค์ของกิจกรรมต่าง ๆ เขียนตามความรู้เดิมท...